กลอน Birth Day

ฺBirth Day คนดีของฉัน

วันนี้เป็นวันสำคัญของเทอยังจำได้

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเท่าใด

วันนี้ยังอยู่ในใจไม่เคยลืม

ส่งความรัก ความห่วงใย ให้เสมอ

แล้วตบท้าย บอกกับเทอ I Love You

บทเพลง มาร์ชราชนาวิกโยธิน

รุกรันฟันฝ่าในธาราสีคราม
สมเป็นดังนามราชนาวีไทย
รบรันฟันฟาดไม่ขลาดหวั่นไหว
มีศึกมาใกล้ไม่หวั่นครั่นคร้ามริปู
เราราชนาวิกโยธินของไทย
เรารวมกายใจกันไว้เชิดชู
เป็นแนวปราการรุกทานรบผลาญต่อต้านพร้อมพรู
เข้าฟาดฟันรบรันศัตรูขอสู้ขาดใจ
เมื่อเราเข้าประจัญจะผลาญให้สิ้นไป
ยอมพลีชีพเพื่อชาติไทย
รีบรุกบุกเข้าตีไม่หนีสู้เพื่อชัย
กายใจชีวิตมอบเป็นราชพลี
เราราชนาวิกโยธินของไทย
ชีวิตมลายคงไว้ศักดิ์ศรี
วิญญาณยืนยงคู่ธงนาวี
ดำรงเสรีศัตรูหลีกลี้หนีไป
แม้ชีวาเราจำต้องสิ้นสูญลง
แหลมทองยังคงเป็นขวัญคู่ไทย
น.ย.เกรียงไกรไว้ลายแม้ตายชื่อไม่สูญไป
ปกป้องไทยทั้งกายและใจขอไทยอยู่คง

กลอน นิสัยของ “ผู้หญิง”

นิสัยของ “ผู้หญิง” !!ขี้งอนเป็นที่หนึ่ง…
บึ้งตึงเป็นเลิศ… บรรเจิดเรื่องทะเลาะ…
ออเซาะตอน…ช๊อปปิ้ง…
ผีสิงตอนหญิงผ่าน… บงการได้ทุกเรื่อง.. .

ปราดเปรื่องเรื่องจับผิด.. .หงุดหงิดเป็นนิสัย.. .
ไม่ได้ดั่งใจใช้น้ำตา… ผิดเวลาเธอจะบ่น. ..
ชอบขุดค้นเรื่องแฟนเก่า… มีสายเข้าตาเขม่น…
เช็คทุกเม้นท์ของเฟสบุ๊ค… บุกรุกเรื่องส่วนตัว…
ถ้าเกิดความลับรั่ว~ เตรียมตัวตายยย!!

กลอน ของขวัญสำหรับผู้หญิง

ของขวัญสำหรับผู้หญิง ก็คือ
ผู้ชายดีๆ ซักคน
ส่วนของขวัญสำหรับผู้ชาย ก็คือ
ผู้หญิงที่ไม่ต้องดีมาก แต่..ขอหลายๆ คน

ของขวัญสำหรับช่างภาพหญิง ก็คือ
บอดี้และเลนดีๆพกสะดวก ซักตัว
ส่วนของขวัญสำหรับช่างภาพชาย ก็คือ
บอดี้ที่ไม่ต้องดีมาก แต่..ขอหลายๆ เลน

ข้อมูล โรคริดสีดวง

3 ปัจจัยเสี่ยงโรคริดสีดวง

ใครจะเชื่อว่า การนั่งทำงานอย่างทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์โดยไม่ลุกเดินไปไหน จะเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคริดสีดวงทวาร ที่สร้างความทรมานให้กับสาว ๆ วัยทำงานโดยไม่รู้ตัว

อีกทั้งการมีนิสัย และพฤติกรรมบางอย่าง ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคนี้ด้วยเช่นกัน ฉะนั้นสาว WP คนไหนที่ไม่อยากเสี่ยงกับโรคนี้ ควรเลิกพฤติกรรมเหล่านี้โดยด่วน!!

1. กินอาหารฟาสต์ฟู้ด

หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “อาหารขยะ” ซึ่งสาเหตุหนึ่งเกิดจากความรีบเร่งที่ต้องทำงานให้เสร็จทันเวลา เมนูอาหารขยะแบบอเมริกันจึงเป็นคำตอบสุดท้ายที่ถูกเลือก นั่นหมายความว่า ร่างกายของคุณจะได้รับสารอาหารจำพวกกากใยอาหารจากผัก และผลไม้น้อยเกินไป ส่งผลให้เกิดปัญหาท้องผูกตามมาในที่สุด

2. น้ำหนักเกินมาตรฐาน

เป็นผลมาจากการนั่งทำงาน โดยไม่มีการขยับร่างกาย หรือเคลื่อนไหวไปไหนมาไหน ร่างกายไม่ได้ออกกำลัง แถมยังต้องแบกรับน้ำหนักตัวเองทั้งหมดไว้ที่เท้า นอกจากจะทำให้คุณผู้หญิงเป็นโรคอ้วนแล้ว ยังถูกโรคริดสีดวงถามหาอีกด้วย ทางที่ดีควรลุกออกจากเก้าอี้ และหน้าจอคอมพิวเตอร์ แล้วยืดเส้นยืดสายดูบ้างนะคะ

3. ท้องผูกเรื้อรัง

เนื่องจากระบบขับถ่ายผิดปกติ ซึ่งเกิดจากนิสัยการกินที่ไม่สนใจใยดีผัก ผลไม้ บวกกับการนั่งทำงานหนักทั้งวัน ชนิดหามรุ่งหามค่ำ ทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ระบบขับถ่ายจึงทำงานผิดปกติ ไม่มีการขับถ่ายตอนเช้า เกิดการสะสมของเสียไว้ในร่างกาย ฉะนั้นสาว ๆ ที่กำลังมีพฤติกรรมเช่นนี้ ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน ก่อนที่โรคริดสีดวงจะถามหาในเร็ววัน

ทั้งนี้ “โรคริดสีดวงทวาร”‘ เกิดจากกลุ่มหลอดเลือด และเนื้อเยื่อบริเวณลำไส้ตรง หรือบริเวณรูทวารมีขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลให้หลอดเลือดดำที่ขยายใหญ่ขึ้น เกิดการโป่งพอง ยื่นออกมาให้เห็นเป็นหัว เรียกว่า “ริดสีดวง” ซึ่งอาจจะมีหลายหัว หรือหัวเดียวก็ได้ เมื่อนั่งจะทำให้เกิดการกดทับเนื้อที่ยื่นออกมาเป็นติ่ง ส่งผลให้เกิดการอักเสบ และเจ็บคัน

ข้อมูล โรคลำไส้แปรปรวน

ลำไส้แปรปรวน

ลำไส้แปรปรวนกับทางเลือกในการรักษา (Health Plus)

โรคลำไส้แปรปรวน เป็นหนึ่งในโรคที่มีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน ซึ่งการรักษามีหลายวิธี และวิธีหนึ่งที่เริ่มนำเข้ามาใช้รักษาผู้ป่วย คือ การสะกดจิต เหตุใดจึงนำการสะกดจิตมาใช้ในการรักษาโรคลำไส้แปรปรวน (imitable bowel syndrome-IBS) เรามาหาคำตอบในเรื่องนี้กัน

โรค IBS เป็นความผิดปกติในการทำงานของระบบทางเดินอาหาร ประมาณกันว่า 1 ใน 3 ของประชากรอังกฤษป่วยด้วยโรคนี้ อาการของโรคนี้สร้างความรำคาญและทุกข์ทรมานให้กับชีวิต ผู้ป่วยประมาณกว่า 10% ของประชากรมีอาการรุนแรงจนต้องไปหาหมอ

แม้จะยังไม่มีวิธีรักษาโรคนี้ให้หายขาด แต่ก็มีทางรักษาที่หลากหลายซึ่งจะช่วยควบคุมอาการไม่ให้กำเริบ ว่าแต่เราจะทราบได้อย่างไรว่าวิธีใดได้ผล

 “ยังไม่มีวิธีใดที่วิเศษจนสามารถรักษาผู้ป่วยโรคนี้ให้หายได้” แมรี ฮาสลาม ผู้จัดการพยาบาลของศูนย์ให้ความช่วยเหลือ the IBS Network Help-Line กล่าว แต่มีการรักษาอยู่วิธีหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีประสิทธิภาพนั่นคือ การรักษาด้วยการสะกดจิตบำบัดโรคลำไส้แปรปรวน (gut-directed hypnotherapy) อาจฟังดูค่อนข้างน่ากลัว แต่ที่จริงหาเป็นเช่นนั้นไม่

อลิซาเบธ เทย์เลอร์ นักสะกดจิตบำบัดแห่งแผนกการแพทย์องค์รวม โรงพยาบาลรอสเซนเดลอธิบายว่า “คนป่วยจะถูกสะกดจิต และนักสะกดจิตจะให้คำแนะนำให้ด้านบวก เป้าหมายเพื่อให้ลำไส้ทำงานเป็นปกติ บรรเทาอาการปวดและท้องอืด การสะกดจิตบำบัดโรคลำไส้แปรปรวนเป็นเพียงการให้คำแนะนำโดยตรง คุณต้องนั่งนิ่ง ๆ ขณะถูกสะกดจิต หรือปลดปล่อยความรู้สึกเจ็บปวด ผู้สะกดจิตจะให้ผู้ป่วยวางมือบริเวณหน้าท้อง และจะรู้สึกร้อนที่หน้าท้อง ผู้ป่วยจะได้รับเทปบันทึกเทคนิคการบำบัด เพื่อให้นำกลับไปฝึกปฏิบัติเองที่บ้านทุกวัน”

วิธีนี้ให้ผลดีหากผู้ป่วย IBS มีอาการหลัก 3 อย่างได้แก่ ปวดท้อง ท้องอืด และอาการผิดปกติของลำไส้ที่ทำให้เกิดอาการท้องผูกหรือท้องเสีย คุณต้องเปิดใจรับการรักษาดังกล่าว และมุ่งมั่นที่จะเอาชนะอาการป่วย “ตามปกติต้องบำบัดทั้งหมด 12 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง” เทย์เลอร์กล่าว “มันไม่ใช่การรักษาโรค แต่เป็นเทคนิคที่ดีในการควบคุมอาการ”

ผลการวิจัยชี้ว่าการสะกดจิตได้ผลดี นักวิจัยจากแมนเชสเตอร์ พบว่า การบำบัดช่วยให้ผู้ป่วยอาการดีขึ้นนานถึง 5 ปี หลังจากคอร์สบำบัดเสร็จสิ้น

ด้าน ดร.มาร์ค คอตทริลล์ แพทย์ทั่วไปจากแลงคาเชียร์และผู้ดูแล IBS Network เป็นผู้หนึ่งที่ใช้วิธีสะกดจิตบำบัดโรคลำไส้แปรปรวนในการผ่าตัด กล่าวว่า “เราพบว่าการะสะกดจิตเป็นการรักษาที่ได้ผลดีมาก ดีกว่าการทานยาเป็นอย่างมาก มันไม่เหมือนการสะกดจิตแบบดั้งเดิม แต่เป็นลักษณะของการทำให้จิตใจของผู้ป่วยผ่อนคลายและสบายกายอย่างแท้จริง นับเป็นเทคนิคช่วยบำบัดตนเองให้ดีขึ้นอย่างได้ผล”

ขณะเดียวกัน เมื่อเร็ว ๆ นี้ the IBS Network ได้สอนให้ผู้ป่วยรู้จักวิธีการสะกดจิตบำบัดโรคลำไส้แปรปรวนด้วยตนเองทั้งหมด 21 หลักสูตรทั่วประเทศอังกฤษ แต่โชคไม่ดีที่โครงการนี้ซึ่งได้เงินสนับสนุนก้อนแรก จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแห่งชาติ (National Lottery) ต้องยกเลิกไป แต่ทาง the IBS Network ยังหวังว่าจะมีกองทุนใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุนหลักสูตรดังกล่าวนี้อีกครั้ง

ทั้งนี้ สาเหตุของโรค IBS ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ความเครียด การไดเอต โรคลำไส้อักเสบรุนแรง และการตัดมดลูกทิ้งล้วนมีส่วนทำให้เกิดอาการดังกล่าวได้ทั้งสิ้น “อาการเหล่านี้ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอลง โดยเฉพาะคนสูงอายุ บางครั้งถึงขั้นส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในสังคม เพราะพวกเขากลัวว่าตัวเองจะสูญเสียการควบคุมในที่สาธารณะ” แมรี่กล่าว

“คนอายุมากกว่า 50 ปีที่ลำไส้ทำงานผิดปกติอย่างฉับพลัน รวมถึงน้ำหนักตัวลดและ/หรืออุจจาระมีเลือดควรไปพบแพทย์ ที่สำคัญอย่าพยายาม สันนิษฐานเอาเองว่าเป็นโรค IBS เพราะอาจเป็นโรคร้ายแรงอย่างอื่นที่คาดไม่ถึง โดยแพทย์จะตรวจหาต้นเหตุที่แท้จริงโดยการส่องกล้อง หรือการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ เพื่อแยกแยะอาการ เช่น มะเร็งลำไส้ ติ่งเนื้อ หรือโรคถุงที่ผนังลำไส้ใหญ่ (diverticulosis)”

7 ทางเลือกในการรักษาที่คุ้มค่าน่าลอง

1.ยาแผนปัจจุบัน

 ยาแก้ปวดเกร็ง เช่น Colofac (ต้องให้แพทย์เป็นผู้สั่งจ่าย) ทานร่วมกับอาหารเสริมจำพวกไฟเบอร์ ช่วยการทำงานของลำไส้ใหญ่

 ยาแก้ท้องเสีย เช่น โคดีอีน (Codeine) หรือโลเพอราไมด์ (Loperamide) ช่วยให้อาการเดินทางผ่านลำไส้ช้าลง

 ยาระบาย เช่น มะขามแขก ช่วยกระตุ้นเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อผนังลำไส้ ใช้รักษาโรคท้องผูก

2.เปลี่ยนแปลงอาหารการกิน

การจดบันทึกอาหารที่กินในแต่ละวันช่วยให้เราสามารถจำแนกว่าอาหารชนิดใดมีปัญหา ซึ่งอาจเป็นตัวเหตุของอาการผิดปกติ โดยมากอาหารที่ก่อให้เกิดปัญหาได้แก่ ข้าวสาลี น้ำตาล ยีสต์ และน้ำตาลเทียม ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว หรือมะเขือเทศ อย่าพยายามจำกัดอาการที่กินโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เพราะอาจเป็นอันตรายได้ เพราะคนวัยนี้ต้องกินอาหารที่มีแคลอรีน้อยอยู่แล้ว ทำให้เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารมากยิ่งขึ้น

3.โปรไบโอติก

อาหารเสริมโปรไบโอติกช่วยสร้างสมดุลระหว่างแบคทีเรียที่ “ดี” และ “ไม่ดี” ในลำไส้ ลดแก๊สในท้อง และบรรเทาอาการปวด แก้ท้องเสีย และเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค หาซื้ออาหารเสริมที่มีส่วนผสมของ Bifobacterium และ Lactobacillus ผลการวิจัยยังชี้ว่าเครื่องดื่มโปรไบโอติกอย่างยาคูลท์ช่วยได้

4.ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นประจำช่วยให้การทำงานของลำไส้ดีขึ้นและบรรเทาอาการท้องผูก

5.เทคนิคช่วยผ่อนคลาย

โยคะและการนั่งสมาธิช่วยลดความเครียด ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดอาการของโรค

6.นวดกดจุดฝ่าเท้า

ผู้เชี่ยวชาญด้านการนวดกดจุดฝ่าเท้าเชื่อว่า อารมณ์ฉุนเฉียว ความวิตกกังวล และความเครียดส่งผลต่อการทำงานของลำไส้ การนวดกดจุดฝ่าเท้าช่วยผ่อนคลายเนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้การเผาผลาญอาหารในระบบย่อยอาหารเกิดความสมดุล

7.โฮมีโอพาธีย์ (Homeopathy)

เป็นวิธีการรักษาแบบธรรมชาติบำบัดโดยใช้สารที่ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยมากระตุ้นให้ระบบเซลล์ในร่างกายทำงานด้วยตัวของมันเอง

 Arsenicum album ช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย

 Carbo veg ช่วยแก้ท้องอืด มีแก๊สในท้อง

 Podophylium แก้ท้องเสีย ปวดท้อง และท้องอืดท้องเฟ้อ

 Veratum album แก้ท้องเสีย ถ่ายอุจจาระเหลว และอาการอ่อนเพลีย

สำหรับในประเทศไทยสามารถขอรับค่าปรึกษาได้โดยตรงจากบุคลากรสหวิชาชีพทางสาธารณสุข รวมถึงเภสัชกรหรือขอรับคำปรึกษาได้จากสถานปฏิบัติการเภสัชกรรมชุมชน (โอสถศาลา) คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โรคลำไส้แปรปรวนคืออะไร

โรคลำไส้แปรปรวนคือกลุ่มของอาการที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของลำไส้ ต่อไปนี้คือสัญญาณของอาการลำไส้แปรปรวน

 ปวดท้องและปวดเกร็งลำไส้
 ท้องเสีย
 ท้องผูก
 ท้องเสียสลับท้องผูก
 ท้องอืด
 ท้องไส้ปั่นป่วน
 มีแก๊ส เรอ และอาเจียน

“ยังมีอาการอื่นๆ ที่พบได้บ่อยในส่วนอื่นของร่างกาย” แมรี่ ฮาสลาม ผู้จัดการพยาบาลของศูนย์ให้ความช่วยเหลือ the IBS Network Help-Line กล่าว “อาการดังกล่าวได้แก่ ปวดศีรษะ มึนงง ปวดหลัง อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อ ปัสสาวะบ่อย”

ข้อมูล โรคปริทันต์ พ่วงโรคร้ายนานาชนิด

โรคปริทันต์
โรคปริทันต์

โรคปริทันต์ พ่วงโรคร้ายนานาชนิด  (ไทยโพสต์)

จากการสำรวจของกองทันตสาธารณสุขกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข ล่าสุดพบว่า เด็กอายุ 12 ปี เป็นโรคปริทันต์อักเสบ หรือโรคเหงือกอักเสบแล้วถึงร้อยละ 80 และกลุ่มวัยทำงานเป็นโรคปริทันต์อักเสบถึงร้อยละ 40 และเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 80-90 ในผู้สูงอายุ กล่าวได้ว่าโรคปริทันต์เป็นโรคที่เกิดได้กับทุกคนในครอบครัวนั่นเอง

ด้าน อ.ทพญ.ดร.กนกวรรณ นิสภกุลธร ประธานวิชาการสมาคมปริทันตวิทยาแห่งประเทศไทย และ ทพ.สุนทร อัศวานันท์ ผู้อำนวยการคลินิกทันตกรรมอัศวานันท์ ร่วมกันให้ความรู้เรื่องนี้ว่า “สุขภาพของช่องปากและฟันเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งลโดยตรงกับการมีสุขภาพกายที่ดี การปล่อยปละละเลยสุขภาพของช่องปาก เป็นสัญญาณอันตรายที่จะนำไปสู่การเป็นโรคร้ายอื่นๆ ทั้งที่จริงๆ แล้วเราสามารถดูแลสุขภาพของช่องปากและฟัน ตลอดจนป้องกันการเกิดโรคร้ายแรงต่างๆ ได้อย่างง่ายๆ เพียงแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี”

“ตามปกติแล้วสาเหตุหลักที่ทำให้สูญเสียฟันก็คือ โรคฟันผุ และโรคเหงือก หรือโรคปริทันต์ ซึ่งนอกจากทำให้เกิดการสูญเสียฟันแล้ว การติดเชื้อเรื้อรังในช่องปากจาก โรคปริทันต์อักเสบ ยังทำให้เกิดโรคร้ายแรงอื่นๆ ตามมาอย่างคาดไม่ถึง อาทิ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด ทำให้คนไข้เบาหวานควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ยาก นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการคลอดทารกก่อนกำหนดของหญิงมีครรภ์ด้วย  ใครจะรู้ว่าแค่เหงือกอักเสบนิดเดียว จะกลายเป็นเรื่องลุกลามใหญ่โตได้ถึงเพียงนี้”

โรคปริทันต์ เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในคราบจุลินทรีย์บนผิวฟัน โรคปริทันต์ อาจเกิดกับฟันซี่เดียวหรือหลาย ๆ ซี่ในปาก หากไม่ได้รับการรักษาจะทำให้ฟันโยกจนต้องถอนฟันในที่สุด โดยโรคนี้สามารถแบ่งอย่างง่าย ๆ ได้เป็น  2 ประเภทตามความรุนแรงของโรคคือ โรคเหงือกอักเสบ และ โรคปริทันต์อักเสบ โรคเหงือกอักเสบมีความรุนแรงน้อยกว่า โดยมีการอักเสบเฉพาะที่เหงือก ส่วน โรคปริทันต์อักเสบ หรือเดิมเรียกว่า โรครำมะนาด มีความรุนแรงของโรคมากกว่า นั่นคือ จะมีการอักเสบของเหงือกร่วมกับการที่กระดูกรอบรากฟันถูกทำลาย โรคปริทันต์อักเสบส่วนใหญ่พบในคนอายุ  30-40  ปีขึ้นไป และจะทวีความรุนแรงของโรคเพิ่มมากขึ้นตามอายุที่มากขึ้น แต่ในปัจจุบันพบว่ามี โรคปริทันต์อักเสบ บางชนิดที่สามารถพบได้ในวัยเด็ก และวัยรุ่น

โรคปริทันต์ เป็นโรคที่ดำเนินไปอย่างช้าๆ และมักไม่แสดงอาการเจ็บปวดใดๆ คนส่วนใหญ่จึงไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคปริทันต์ และมักมาพบทันตแพทย์เมื่อโรคลุกลามไปมากแล้ว ผู้ที่มีเหงือกอักเสบมากอาจพบว่ามีเลือดออกขณะแปรงฟัน ผู้ที่เป็น โรคปริทันต์อักเสบ อาจสังเกตเห็นว่าเหงือกของตนเองมีการร่นเพิ่มขึ้น ช่องว่างระหว่างฟันมีขนาดใหญ่ขึ้น ฟันเริ่มแยกห่างจากกัน ฟันโยก เหงือกบวม เป็นๆ หายๆ มีหนอง หรือมีกลิ่นปาก ซึ่งนอกจากจะทำให้เจ็บปวดทรมานแล้ว ยังทำให้สูญเสียความมั่นใจ จะพูดกับใครก็กลัวสังคมรังเกียจอีกด้วย

กลอน รัก – ข้าง – เดียว

ฉันรู้ดี ว่ารักนั้น เป็นเพียงฝัน

ไม่มีวัน ที่เธอ จะมองเห็น

ไม่มีวัน เธอจะรู้ สิ่งที่เป็น

สิ่งซ่อนเร้น ในตาเธอ ฉันเข้าใจ

ไม่เป็นไร ถ้าเธอ ไม่รู้สึก

ในส่วนลึก ฉันรู้ดี เป็นไหนไหน

ไม่เป็นไร ไม่รักกัน ฉันจะไป

เป็นแค่เพื่อน แค่นี้ได้ ก็เกินพอ

 

ก็รู้ดี เธอไม่เคย เห็นสำคัญ

แต่ใจฉัน ยังเฝ้าฝัน อยู่เสมอ

แม้ห้ามใจ เท่าไร มีแต่เธอ

คอยจะเผลอ เพ้อพก เธอมีใจ

สำหรับฉัน เรื่องรัก ไม่จำเป็น

ขอเพียงเห็น หน้าเธอ แสนสดใส

ในที่สุด คนส่วนเกิน ก็ต้องไป

เก็บเธอไว้ ในใจ ผู้เดียวพอ

ประวัติ วันต้านเอดส์โลก วันเอดส์โลก (1 ธันวาคม)

วันต้านเอดส์โลก วันเอดส์โลก
1 ธันวาคม ของทุกปี

องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดเอา วันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปีเป็น“วันโลกต้านเอดส์” (WORLD AIDS DAY) และในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2532 ถือว่า เป็นวันโลกต้านเอดส์ครั้งแรก

ในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2532 ถือว่าเป็นวันโลกต้านเอดส์ครั้งแรก มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านโรคเอดส์หลายรูปแบบพร้อมกันทั่วโลก

โดยตั้งความหวังไว้ว่า
1.จะพยายามหยุดยั้งโรคเอดส์
2.ให้ความเห็นใจ ห่วงใย ต่อผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยโรคเอดส์
3.ให้ทุก ๆ คนได้รู้เรื่องโรคเอดส์

จากการที่องค์การอนามัยโลก ได้ให้ความสำคัญของโรคเอดส์ดังกล่าว ย่อมเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า โรคเอดส์เป็นโรคที่มีความรุนแรง มีผลกระทบต่อตนเอง ต่อครอบครัว ต่อสังคมและต่อประเทศชาติ ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมากมาย

โรคเอดส์ (Acquired Immune Deficiency Syndrome) AIDS
A = Acquired หมายถึง ภาวะที่เกิดขึ้นภายหลังไม่ได้เป็นมาแต่กำเนิด หรือไม่ได้ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
I = Immune หมายถึง ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
D = Deficiency หมายถึง ความบกพร่อง ความเสื่อม
S = Syndrome หมายถึง กลุ่มอาการของโรค ซึ่งมีอาการหลายลักษณะตามระบบต่าง ของร่างกาย

 โรคเอดส์ (AIDS) หรือ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Acquired Immune Deficiency Syndrome) เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า ฮิวแมนอิมมิวโนเดฟีเซียนซีไวรัส (Human Immunodeficiency Virus) หรือเรียกย่อ ๆ ว่า เอชไอวี (HIV) ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้กันต่ำลงเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายถูกไวรัสทำลายและเสียชีวิตจากโรคต่าง ๆ ที่เข้ามาซ้ำเติมในภายหลัง (เรียกว่าโรคฉวยโอกาส) เช่น วัณโรค ปอดบวม ติดเชื้อในระบบโลหิต เชื้อรา ฯลฯ
เชื้อไวรัสเอดส์นี้มีหลายสายพันธุ์

สายพันธุ์หลักดั้งเดิม ได้แก่ เอชไอวี-1 (HIV-1) ซึ่งแพร่ระบาดในแถบสหรัฐอเมริกา ยุโรป และแอฟริกา กลาง

สายพันธุ์เอชไอวี-2 (HIV-2) แพร่ระบาดในแถบแอฟริกาตะวันตก นอกจากนั้นยังมีสายพันธุ์ย่อยอื่น ๆ อีกมากมายตามเวลาที่ผ่านไป ทั้งนี้เนื่องจากเชื้อไวรัสเอดส์นี้สามารถกลายพันธุ์ได้ง่าย
อาการติดเชื้อเอดส์แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้

ระยะที่ 1
กลุ่มผู้ที่ตรวจพบเชื้อไวรัสเอดส์แต่ยังไม่ปรากฎอาการผิดปกติแต่อย่างใด บุคคลกลุ่มนี้จัดเป็นพาหะนำโรคซึ่งสามารถแพร่เชื้อไปสู่บุคคลอื่นได้อย่างไม่จำกัดจำนวนนับว่าเป็นแหล่งแพร่เชื้อที่สำคัญ เพราะผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ เป็นเวลานาน หากไม่มีการตรวจพบเชื้อจะไม่มีทางทราบได้เลย ว่าบุคคลนี้มีเชื้อไวรัสเอดส์อยู่ในร่างกาย จนกว่าจะมีอาการป่วยปรากฎออกมาให้เห็น

ระยะที่ 2
         เป็นอาการที่พบได้ก่อนที่จะปรากฎอาการป่วยเป็นโรคเอดส์ (AIDS-Relate Complex) หรืออาจเรียกว่า กลุ่มอาการ ARC หมายถึง กลุ่มที่มีอาการ จะสังเกตได้จากอาการเรื้อรังที่ไม่ทราบสาเหตุในระยะนี้สามารถตรวจพบภูมิคุ้มกันในเลือดของผู้มีอาการนำ หรืออาจจะสังเกตลักษณะของอาการได้ดังนี้
1.มีไข้สูงเกิน 37.8 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลานานไม่ต่ำกว่า 3 เดือน
2.น้ำหนักตัวลดลงมากกว่า 4.5 กิโลกรัม หรือมากว่าร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัวเดิมภายใน 2 เดือน
3.ต่อมน้ำเหลืองตามร่างกายหลายแห่งบวมโตนานกว่า 3 เดือน
4.อุจจาระร่วงเรื้อรังนาน 1-3 เดือน
5.เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย มีเหงื่อออกตอนกลางคืน และพบว่าร้อยละ 20 ของกลุ่ม ARC จะมีอาการลุกลามไปเป็นโรคเอดส์ในเวลาต่อมา
6.แขนหรือขาข้างใดข้างหนึ่งจะไม่มีเรี่ยวแรงและทำงานไม่ประสานกัน

ระยะที่ 3
เป็นระยะที่กลุ่มผู้ป่วยจะปรากฎอาการของโรคเอดส์ซึ่งอาการในระยะนี้แบ่งตามอาการที่ปรากฏออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือการติดเชื้อชนิดฉวยโอกาส และอาการของโรคมะเร็ง
กลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคเอดส์ สามารถแยกออกได้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้
1.กลุ่มมีเพศสัมพันธ์ผิดธรรมชาติหรือสำส่อนทางเพศ เช่น กลุ่มรักร่วมเพศชาย กลุ่มรักต่างเพศ
2.กลุ่มผู้ติดยาเสพติด
3.กลุ่มที่รับเลือดหรือผลิตภัณฑ์จากเลือด
4.กลุ่มที่ได้รับเลือดจากมารดา

ประวัติ วันผู้สูงอายุ (13 เมษายน)

วันผู้สูงอายุ
ทุกวันที่ 13 เมษายน ของทุกปี

รัฐบาลในสมัย พล.เอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของผู้สูงอายุ และปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อ วันที่ 14 ธันวาคม 2525 อนุมัติให้วันที่ 13 เมษายน ของทุกปี เป็นวันผู้สูงอายุ และได้เลือก “ดอกลำดวน” เป็นสัญลักษณ์ของผู้สูงอายุ

ความหมายคำว่า ผู้สูงอายุ

จากการที่องค์การสหประชาชาติได้จัดประชุมสมัชชาโลกเกี่ยวกับผู้สูงอายุ เมื่อปี พ.ศ. 2525 ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรเลีย ได้ให้ความหมาย ของ คำว่า ผู้สูงอายุ ไว้ดังนี้

ผู้สูงอายุ หมายถึง บุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปทั้งชายและหญิง ซึ่งในการศึกษารวบรวมข้อมูลประชากรผู้สูงอายุได้แบ่ง ผู้สูงอายุเป็น 2 กลุ่มคือ ผู้สูงอายุตอนต้น และผู้สูงอายุตอนปลาย

ผู้สูงอายุตอนต้น หมายถึง บุคคลที่มีอายุ 60-69 ปี ทั้งชายและหญิง

ผู้สูงอายุตอนปลาย หมายถึง บุคคลที่มีอายุ 70 ปี ขึ้นไปทั้งชายและหญิง

เฉลี่ยเมื่อแรกเกิด หมายถึงจำนวนปีทีบุคคลหนึ่งเมื่อเกิดมาแล้วมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปจนกระทั่งตาย

อายุขัยเฉลี่ยเมื่ออายุ 60 ปี หมายถึง จำนวนปีที่บุคคลหนึ่งเมื่ออายุครบ 60 ปี แล้วมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป จนกระทั่งตาย

ความเป็นมาของผู้สูงอายุ

ในสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายที่สำคัญประการหนึ่งในอันที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนมี สภาพความเป็นอยู่ที่ดี มีคุณภาพ และดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข จึงได้มอบให้กรมประชาสงเคราะห์จัดตั้งสถานสงเคราะห์คนชราขึ้น เพื่อให้การสงเคราะห์ผู้สูงอายุที่เดือดร้อนมีความทุกข์ยากประสบปัญหาและไม่ สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง กรมประชาสงเคราะห์จึงได้จัดตั้งสถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางแค เป็นแห่งแรกในปี พ.ศ. 2496 โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้

  1. เพื่อให้การสงเคราะห์คนชราที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ หรือประสบปัญหาความทุกข์ยาก เดือดร้อน ยากจน ไม่มีที่อยู่อาศัย หรือไม่สามารถอยู่กับครอบครัวได้
  2. เพื่อให้บริการแก่คนชราที่อยู่กับครอบครัวของตน แต่มีความต้องการบริการสงเคราะห์คนชราบางอย่าง เช่น การรักษาพยาบาล กายภาพบำบัด นันทนาการ
  3. เพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัวผู้มีรายได้น้อย หรือยากจน ที่ไม่สามารถจะอุปการะเลี้ยงดูคนชราไว้ในครอบครัวได้
  4. เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาสังคมอันเกี่ยวกับคนชรา ไม่ให้เร่ร่อน ทำความเดือดร้อนรำคาญแก่สังคมและให้สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างผาสุกตามสมควร แก่อัตภาพ
  5. เพื่อเป็นการตอบแทนคุณความดีที่คนชราได้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ
  6. เพื่อผู้สูงอายุจะได้คลายวิตกกังวล เมื่อชราภาพ ไม่สามารถประกอบอาชีพต่อไปได้แล้วทางรัฐบาลมีหน้าที่จะเป็นผู้อุปการะเลี้ยง ดูต่อไป

กรมประชาสงเคราะห์ได้ดำเนินการให้การสงเคราะห์ผู้สูงอายุ ตามนโยบายดังกล่าวข้างต้นตลชุมสมัชชาโลกว่าด้วยผู้สูงอายุ ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งได้พิจารณาประเด็นสำคัญเกี่ยวกับผู้สูงอายุไว้ 3 ประการ คือ ด้านมนุษยธรรม ด้านการพัฒนา และด้านการศึกษา นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลก ยังได้กำหนดให้ปี 2525 เป็นปีรณรงค์เพื่อส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุโดยกำหนดคำขวัญว่าAdd life to Years เพื่อให้ประเทศต่างๆช่วยกันส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุซึ่งคณะกรรมการอำนวยการ วันอนามัยโลกของกระทรวงสาธารณสุข ได้มีมติให้ใช้คำขวัญเป็นภาษาไทยว่า ให้ความรัก พิทักษ์อนามัย ผู้สูงวัยอายุยืน

ในส่วนของรัฐบาลไทย ก็ได้เห็นความสำคัญโดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2525 แต่งตั้งคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติขึ้น โดยมี ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการอธิบดีกรมประชาสงเคราะห์ เป็นกรรมการและเลขานุการ ผู้แทนจากหน่วยราชการองค์การเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการ ทำหน้าที่กำหนดนโยบายวางแผนและดำเนินกิจกรรมระดับชาติที่เกี่ยวกับผู้สูง อายุซึ่งคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นรวม 7 สาขา เพื่อดำเนินกิจกรรมในด้านต่าง ๆ ได้แก่

  1. คณะอนุกรรมการ การศึกษาวิจัยและวางแผนระยะยาวเกี่ยวกับผู้สูงอายุ
  2. คณะอนุกรรมการ ประสานงานบริการสุขภาพผู้สูงอายุ
  3. คณะอนุกรรมการ สวัสดิการผู้สูงอายุ
  4. คณะอนุกรรมการ การศึกษาวัฒนธรรมและกิจกรรมเพื่อผู้สูงอายุ
  5. คณะอนุกรรมการ วิเทศสัมพันธ์เรื่องผู้สูงอายุ
  6. คณะอนุกรรมการ ประชาสัมพันธ์กิจการผู้สูงอายุ
  7. คณะอนุกรรมการ จัดหาทุนส่งเสริมกิจกรรมผู้สูงอายุ

ในปี พ.ศ. 2525 คณะรัฐมนตรีได้ลงมติ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2525 อนุมัติให้วันที่ 13 เมษายนของทุกปีเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็น ประธานและจัดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ สำหรับผู้สูงอายุของทุกปีตามแผน (พ.ศ. 2525 – 2544) แผนระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุแห่งชาติ (พ.ศ. 2525 – 2544)

คณะอนุกรรมการการศึกษาวิจัยและวางแผนระยะยาวสำหรับผู้สูง อายุ ซึ่งมีอธิบดีกรมการแพทย์ เป็นประธาน ได้จัดทำแผนระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุแห่งชาติ (พ.ศ. 2525 – 2544) ขึ้น โดยได้คำนึงถึงประเด็นสำคัญเกี่ยวกับผู้สูงอายุด้านมนุษยธรรม ด้านการพัฒนา และด้านการศึกษาเป็นหลัก แผนนี้ประกอบด้วยนโยบายและมาตรการ 5 ด้าน คือ

  1. ด้านสุขภาพอนามัย
  2. ด้านการศึกษา
  3. ด้านการสังคมวัฒนธรรม
  4. ด้านความมั่นคงทางรายได้และการทำงานอา
  5. ด้านสวัสดิการสังคม

สัญลักษณ์ดอกไม้ของผู้สูงอายุ

รัฐบาลในสมัย พล.เอกเปรม ติณสูลานนท์ นอกจากจะอนุมัติให้วันที่ 13 เมษายน ของทุกปี เป็นวันผู้สูงอายุ แล้วยังได้เลือก “ดอกลำดวน” เป็นสัญลักษณ์ของผู้สูงอายุด้วย สาเหตุที่เลือกดอกไม้นี้ เนื่องจากต้นลำดวนเป็นพืชยืน ต้นที่มีอยู่มากในสวนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นต้นไม้่ให้ความร่มเย็น ลำต้นมีอายุยืน มีใบเขียวตลอดปี ให้ร่มเงาดีและดอกมีสีนวล กลิ่นหอม กลีบแข็งไม่ร่วงง่าย เหมือนกับผู้ทรงวัยวุฒิ ที่คงคุณธรรมความดีงามไว้ให้เป็นแบบอย่างแก่ลูกหลานตลอดไป นอกจากนั้นทางด้านพฤกษศาสตร์ ต้นไม้นี้ยังใช้เป็นยาบำรุงหัวใจได้อีกด้วย ประการสำคัญ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงดำริให้จัดสวนนี้ขึ้น เพื่อให้เป็นตัวอย่างที่ดีของผู้สูงอายุ

กิจกรรมวันผู้สูงอายุแห่งชาติ

  • กราบขอพรผู้สูงอายุ
  • มอบของขวัญให้กับผู้สูงอายุ